*บทความนี้แปลโดย QooApp ภายใต้การอนุญาตของ เครื่องเทศ ห้ามทำซ้ำในรูปแบบใด ๆ โดยไม่ได้รับอนุญาต
ด้วยผลงานของเขาที่ได้รับการยกย่องในโครงการนับไม่ถ้วนในฐานะผู้ผลิตเสียง นักแต่งเพลง และดีเจ Taku Inoue ได้ร่วมมือกับ VTuber/VSinger ที่โดดเด่น โฮชิมาจิ ซุยเซย์ เป็นแท็คทีมภายใต้ชื่อวง Midnight Grand Orchestra หลังจากมินิอัลบั้มแรกของพวกเขา “Overture” ออกวางจำหน่ายเมื่อวันที่ 27 กรกฎาคม ทั้งคู่ก็ได้วางรากฐานของพวกเขาในแง่ของแนวคิดและการสร้างโลกในฐานะวงดนตรี
ในผลงานต้นฉบับที่ SPICE เราจะเจาะลึกถึงเหตุการณ์สดเสมือนจริงใหม่ล่าสุดของ Midnight Grand Orchestra ที่มีรายการเพลงที่ส่วนใหญ่ประกอบด้วยเพลงจากมินิอัลบั้มดังกล่าว พร้อมด้วยเพลงพิเศษบางส่วน โรยเข้ามา
ประวัติโดยย่อของทั้งคู่มีลักษณะดังนี้: Hoshimachi Suisei ถูกนำเข้ามาเป็นนักร้องรับเชิญในเพลงเปิดตัวหลักของ Taku Inoue “3:12” (3時12分) โดยที่ ทั้งสองศิลปินร่วมมือกันครั้งแรก
ในเวลาเดียวกัน ซุยเซย์อยู่ในระหว่างการผลิตอัลบั้มแรกของเธอเอง “Still Still Stellar” ซึ่งเธอจะมีอิโนะอุเอะเป็นนักแต่งเพลงสำหรับชื่อเรื่อง เพลงจากอัลบั้ม Stellar Stellar แฟนๆ ของทั้งสองฝ่ายต่างตระหนักดีว่าการทำงานร่วมกันพร้อมกันโดยบังเอิญเหล่านี้นำศิลปินทั้งสองมารวมกันเป็น Midnight Grand Orchestra ได้อย่างไร
▍Hoshimachi Suisei ที่ Midnight Grand Orchestra 1st Live Concert “Overture”
เนื่องจากการรวมตัวกันของ Midnight Grand Orchestra เป็นครั้งแรกเนื่องจากการร่วมมือกันของทั้ง “Stellar Stellar” และ “3:12” จึงกล่าวได้เป็นอย่างดีว่าทั้งสองแทร็กนี้มีเส้นทางของ เสียงที่รวมเข้าด้วยกันโดยคู่หูดนตรี การเลือกชื่อเพลงที่สื่อถึงการเริ่มต้นเช้าและสิ้นสุดของคืน แทร็ก “3:12” ใช้จังหวะหยุดแล้วไปต่อที่ช่วยเพิ่มความสงบแต่เป็นธรรมชาติของเพลง
ในทางกลับกัน “Stellar Stellar” เปิดตัวด้วยเพลง Liquid funk/drum อันเป็นเอกลักษณ์ของ Inoue และท่วงทำนองที่ได้รับอิทธิพลจากเบส ผสมผสานกับเครื่องสายออเคสตราเพื่อเพิ่มความยิ่งใหญ่ของแทร็ก ให้ไหลลื่นมากขึ้นในฐานะผู้นำ เพลงของอัลบั้ม โครงสร้างโดยรวมของอัลบั้มและเพลงประกอบเข้ากับเพลงที่คัดสรรมาอย่างโชกโชน เช่น “Stellar Stellar” คั่นด้วยเพลงที่ไพเราะกว่าอย่าง “3:12” ที่เพิ่มเข้ามาในมิกซ์
© VIA/TOY’S FACTORY, (C) 2016 COVER Corp.
การแสดงสดครั้งนี้เป็นการรวมตัวกันในรูปแบบของเซสชันการดูสตรีมแบบสดด้วย จำกัดผู้ชม 150 คน ในฐานะบรรณาธิการของรายงานนี้ ข้าพเจ้าเป็นหนึ่งในหลายๆ คนที่เข้าร่วมการประชุม เพื่อให้ผู้อ่านได้มีความคิด การดำเนินการทั้งหมดของการแสดงถูกผู้ชมเงียบ ๆ เนื่องจากกฎระเบียบที่ออกมา
แม้ว่าจะไม่มีเสียงปรบมือในช่วงท้ายของแต่ละเพลง และไม่มีเสียงโห่ร้องเชียร์จากฝูงชน สำหรับผมชัดเจนว่าทุกคนก็แค่สัมผัสประสบการณ์และ ท่ามกลางความเงียบงันจากการแสดงทั้งหมด
เรื่องนี้ดังมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับการที่ฉันถูกนำกลับมาสู่โลกแห่งความเป็นจริงในช่วงท้ายของคอนเสิร์ต โดยส่งเสียงปรบมือและเสียงปรบมือดังก้องออกมาจากฝูงชน หากเซสชันการรับชมมีลักษณะเหมือนคอนเสิร์ต อาจกล่าวได้ว่าการที่ผู้ชมไม่มีเสียงนี้เป็นประสบการณ์ที่แบ่งปันกับทุกคนที่อยู่ที่นั่น และทุกคนก็หลงใหลในทุกสิ่งอย่างเท่าเทียมกัน
© VIA/TOY’S FACTORY, (C) 2016 COVER Corp.
© VIA/TOY’S FACTORY, (C ) 2016 COVER Corp.
เช่นเดียวกับวิดีโอแอบถ่ายช่วงแรกๆ ซึ่งถูกล้อเลียนไว้ล่วงหน้า คอนเสิร์ตได้นำสุนทรียศาสตร์แห่งไซเบอร์พังก์มาใช้กับเวทีเสมือนจริง รายละเอียดที่นำเสนอบนเวทีนั้นน่าประทับใจไม่แพ้กัน ที่ซึ่งทิวทัศน์ของเมืองทั้งหมดที่มีเส้นขอบฟ้าสว่างไสวด้วยแสงดาวและสีนีออนทำให้ตาดูตื่นตาตื่นใจ
การแสดงสดเริ่มต้นด้วยการนับถอยหลัง ตามด้วยไฟเวทีที่มีโลโก้ Midnight Grand Orchestra ปิดท้ายด้วยรหัสมอร์สที่สะกดว่า SOS การแสดงเริ่มด้วยการนับถอยหลังเป็นศูนย์ โดยเริ่มการแสดงด้วย “Never Ending Midnights” และ “SOS”
© VIA/TOY’S FACTORY, (C) 2016 COVER Corp. 
© VIA/TOY’S FACTORY, (C) 2016 COVER Corp.
“สวัสดีทุกคน! ขอบคุณทุกคนมากที่มารับชมคอนเสิร์ตสดครั้งแรกของ Midnight Grand Orchestra!” หลังจากปิดเพลงเปิดทั้งสองเพลงแล้ว ซุยเซก็ทักทายผู้ชมของเธอพร้อมกับอิโนะอุเอะด้วยกีตาร์ของเขา พร้อมกับมือกลองและมือเบสที่อยู่เบื้องหลัง VSinger
“สำหรับผู้ดูบน YouTube จะเป็นจุดสิ้นสุดของสตรีมลับสุดยอด! อย่าอยู่นิ่งๆ ให้มากกว่านี้ เพราะฉันคิดว่าเราได้แสดงให้เห็นแล้วว่าการแสดงนี้นำเสนออะไร!” ปิดท้ายด้วยคำพูดเหล่านี้ ซุยเซย์ก็ร้องเพลงต่อไปของเธอ ทุกคนตกตะลึงและหมกมุ่นอยู่กับการจัดลำดับความสำคัญแล้ว
© VIA/TOY’S FACTORY, (C) 2016 COVER Corp. 
© VIA/TOY’S FACTORY, (C) 2016 COVER Corp. 
© VIA/TOY’S FACTORY, (C) 2016 COVER Corp. 
© VIA/TOY’S FACTORY, (C) 2016 COVER Corp.
เพลง “Allegro” จะเพิ่มเกียร์ต่อด้วย “Rat A ททท” fol ต่ำลงด้วยจังหวะที่ติดหู สมาชิกทุกคนของ Midnight Grand Orchestra แต่งกายด้วยชุดสีน้ำเงินตามธีม โดย Suisei สวมชุดดั้งเดิมของเธอในเวอร์ชันดัดแปลง โดยเปลี่ยนส่วนสีส้มในเสื้อผ้าของเธอเป็นสีน้ำเงินเข้ม ระหว่างการแสดง กล้องมักจะโฟกัสไปที่ vtuber ซึ่งแต่ละลมหายใจและเสียงของเธอจะแสดงขึ้นบนหน้าจอ
หลังจากทั้งสองเพลง ทั้งคู่จะวาร์ปออกไปเป็นพร็อพบนเวทีใหม่อย่างสมบูรณ์ เมื่อพวกเขาไปยังส่วน MC ถัดไป ในระหว่างการพูดคุยกับ Suisei Inuoe จะมองข้ามทิวทัศน์ของเมืองเสมือนจริงและใกล้ชิดกับดวงดาวมากขึ้น ที่นี่ทั้งคู่จะพูดคุยสั้น ๆ เกี่ยวกับการทำงานร่วมกันครั้งแรกของพวกเขา รวมถึงจะแสดงสมาชิกในวงที่ร่วมแสดงด้วย
Tepe บนกีตาร์, Hironao Nagayama บนคีย์บอร์ด, CHICA & Yu Sugino บนไวโอลิน, Aiko Hosokawa บนวิโอลา, Yuuki Shinozaki บน Cello และกลองที่เล่นโดย Bobo & Maoki Yamamoto ปัดเศษเครื่องดนตรีของคอนเสิร์ต
© VIA/TOY’S FACTORY, (C) 2016 COVER Corp. 
© VIA/TOY’S FACTORY, (C) 2016 COVER Corp. 
© VIA/TOY’S FACTORY, (C) 2016 COVER Corp. 
© VIA/TOY’S FACTORY, (C) 2016 COVER Corp.
คอนเสิร์ตไปพร้อมกับเซ็ตลิสต์ของอัลบั้ม กับ “Tuning (Interlude)” และปรับโทนเสียงให้มีความกลมกล่อมยิ่งขึ้น ”ฝนดาวตก” (流星群) มีกลุ่มดาวหางจำนวนมากเหมือนกับชื่อเพลงและเนื้อเพลงที่ซุยเซร้อง ไปต่อที่เพลงที่เจ็ดของการแสดงสด ”3:12” กล้องซูมออกเมื่อเพลงดังไปพร้อมกับ MV ของเพลง
เมื่อเพลงกระทบสะพานสุดท้าย พื้นเวทีแสดงนาฬิกาที่ชี้ไปที่ 3:12 หมุนเป็นการเคลื่อนไหวราวกับว่าได้รับชีวิตจากเสียงเพลง การตัดสินใจใส่ “Stellar Stellar” ต่อจากแทร็กที่ฟังดูนุ่มนวลนั้นเป็นสัมผัสที่ดีมาก โน้ตที่ยาวขึ้นและท่วงทำนองที่มีการบันทึกสูงจะสร้างคอนทราสต์ที่สวยงามซึ่งแตกต่างจากเพลงก่อนหน้าอย่างมาก
© VIA/TOY’S FACTORY, (C) 2016 COVER องค์กร 
© VIA/TOY’S FACTORY, (C) 2016 COVER Corp.
ส่วน MC หลังจากนั้นจะมาพร้อมกับการประกาศของ Suisei ว่าเพลงที่ 9 นี้จะเป็นเพลงสุดท้ายของมินิไลฟ์ “โปรดตื่นเต้นกับสิ่งที่จะเกิดขึ้น! เราอยากรู้ว่าเราจะทำอะไรได้บ้างในครั้งต่อไปที่เรารวมตัวกัน!” ปิดท้ายด้วยคำพูดเหล่านั้น ซุยเซย์และกลุ่มจึงกวาดสายตาผู้ชมเพื่อชมการแสดงครั้งสุดท้ายของการล่องเรือในยามเที่ยงคืน
ในขณะที่ท้องฟ้ายามค่ำคืนเสมือนจริงอาบไล้ด้วยแสงอุกกาบาตนับไม่ถ้วน เพลง”ทางหลวง”ก็เร่งความเร็วขึ้น อาร์เพจจิโอของเพลงพร้อมกับกระแสดาวที่ตกลงมาจากท้องฟ้าสื่อถึงความรู้สึกที่คล้ายคลึงกับจุดสิ้นสุดของการเดินทางในภาพยนตร์แนวถนน
อุกกาบาตที่ตกลงมานั้นตัดกันกับเครื่องสายที่มาที่ส่วนท้ายของคอรัส ซึ่งเวทีเสมือนจริงทั้งหมดถูกกลืนกินไปด้วยแสงสว่างราวกับว่าโลกกำลังจะจบสิ้น ส่วนสุดท้ายของ “ทางหลวง” และภาพที่เห็นนั้นเป็นของซุปเปอร์โนวาที่รับความรู้สึกซึ่งได้ดับไปแล้ว ทำให้เกิดดาวดวงใหม่ในตอนกลางคืนด้วยการระเบิดที่ส่องสว่างและทรงพลัง
© VIA/TOY’S FACTORY, (C) 2016 COVER Corp.
มินิไลฟ์ Overture จบลงด้วยคำพูดสุดท้ายของซุยเซย์ว่า “ขอบคุณทุกคนมาก พวกเรา Midnight Grand Orchestra หวังว่าจะได้พบคุณอีกในเร็วๆ นี้” เป็นไปได้มากที่กลุ่มจะเรียกการแสดงสด Overture เนื่องจากงานนี้เป็นจุดเริ่มต้นของดูโอดนตรีคู่ใหม่ ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากสมาชิกในวงและทีมงานจำนวนนับไม่ถ้วนที่ช่วยอำนวยความสะดวกในแง่มุมของการแสดง คงจะเป็นการพูดที่น้อยเกินไปหากจะบอกว่าทีมงาน Midnight Grand Orchestra ทุ่มเทอย่างเต็มที่ในการแสดงศิลปะครั้งแรก
© VIA/TOY’S FACTORY, (C) 2016 COVER Corp.
ประสบการณ์ด้านสื่อที่ไม่เหมือนใครอย่างแท้จริง Midnight Grand Orchestra 1st LIVE “Overture” เป็นสิ่งที่ไม่สามารถทำซ้ำได้โดยเพียงแค่สตรีมเพลงเอง และยกระดับประสบการณ์การฟังให้สูงขึ้น เรื่องราวที่ยิ่งใหญ่กว่าด้วยแสงไฟระยิบระยับและอุปกรณ์ประกอบฉากเสมือนจริงที่น่าประทับใจ น่าตื่นเต้นที่จะได้เห็นว่าทั้งคู่มีความคิดอย่างไรในการถ่ายทอดสดครั้งต่อไปด้วยการเปิดหูเปิดตาของประสบการณ์ที่สัมผัสได้ พร้อมให้บริบทและแก่นสารของข้อความและโทนเสียงของแต่ละแทร็กในอัลบั้มเพลงของพวกเขาเอง.
© VIA/TOY’S FACTORY, (C) 2016 COVER Corp.
▍รายการแทร็ก สำหรับ 2022.8.20 Midnight Grand Orchestra 1st LIVE “Overture”
01. ไม่สิ้นสุดเที่ยงคืน
02. สัญญาณขอความช่วยเหลือ
03. อัลเลโกร
04. หนู เอ แทท
05. การปรับ (Interlude)
06. ”ฝนดาวตก” (流星群)
07. “3:12” (3時12分)
08. ดาวฤกษ์ ดาวฤกษ์
09. ทางหลวง
บทความต้นฉบับเขียนโดย Yusuke Maeda (前田勇介) และจัดพิมพ์โดย SPICE ซึ่งสามารถพบได้ที่นี่: https://spice.eplus.jp/articles/307091
